สุขภาพปากและฟัน ของเด็กเล็ก

               การสอนให้ลูกของคุณดูแลสุขภาพปากและฟันอย่างถูกต้องตั้งแต่เด็กเป็นการลงทุนในสุขภาพที่สามารถปันผลให้ได้ตลอดชีวิต

การดูแลสุขภาพปากและฟันของคุณเองอย่างดีเพื่อที่จะแสดงให้เด็กเห็นว่าสุขภาพปากและฟันเป็นสิ่งที่มีค่า นอกจากนี้ อะไรก็ตามที่ช่วยให้เด็กรู้สึกว่าการดูแลสุขภาพปากและฟันเป็นเรื่องสนุก เช่น การแปรงฟันไปกับลูกของคุณ การให้เด็กเลือกแปรงสีฟันด้วยตนเอง ก็จะช่วยให้สนับสนุนการดูแลสุขภาพปากและฟันอย่างเหมาะสมกับเด็กได้ เพื่อช่วยให้เด็กปกป้องฟันและเหงือก และลดโอกาสการเกิดฟันผุ ควรสอนให้เด็กปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้

  • แปรงฟันวันละ 2 ครั้งด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ที่ผ่านการรับรองจาก ADA เพื่อกำจัดคราบแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฟันผุ
  • ใช้ไหมขัดฟันทุกวันเพื่อกำจัดคราบแบคทีเรียตามซอกฟันและร่องเหงือก ก่อนที่จะจับตัวแข็งเป็นหินปูน เพราะเมื่อหินปูนก่อตัว ต้องใช้การทำความสะอาดโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
  • รับประทานอาการที่ถูกสัดส่วน จำกัดปริมาณแป้งและน้ำตาลซึ่งจะสร้างกรดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฟันผุ เมื่อต้องรับประมานอาหารเหล่านั้น ควรรับประทานไปกับมื้ออาหารหลัก แทนที่จะเป็นอาหารว่าง เนื่องจากน้ำลายที่ถูกผลิตออกมาในปริมาณมากช่วงมื้ออาหารจะช่วยขจัดคราบอาหารออกจากปากได้
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมฟลูออไรด์ รวมทั้งยาสีฟันด้วย
  • น้ำดื่มของเด็กควรเป็นน้ำดื่มที่ผสมฟลูออไรด์ ถ้าไม่ได้ผสมฟลูออไรด์ ทันตแพทย์หรือกุมารแพทย์อาจพิจารณาสั่งอาหารเสริมฟลูออไรด์มาให้รับประทาน
  • พาเด็กไปพบทันตแพทย์เพื่อรับการตรวจอย่างสม่ำเสมอ

เราจะสอนเทคนิคการแปรงฟันให้กับเด็กอย่างไร 
คุณอาจจะต้องคอยตรวจตราดูลูกของคุณแปรงฟัน จนกว่าเด็กจะคุ้นเคยกับขั้นตอนต่อไปนี้

  • ใช้ปริมาณยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ที่ผ่านการรับรองจาก ADA ขนาดเท่าเมล็ดถั่ว และคอยดูแลไม่ให้เด็กกลืนยาสีฟัน
  • ใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงอ่อนนุ่ม โดยแปรงขึ้นลงเบาๆ ด้านในของฟันแต่ละซี่ก่อน
  • เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีคราบแบคทีเรียสะสมมากที่สุด
  • ทำความสะอาดฟันด้านนอก โดยแปรงขึ้นลงเบาๆ
  • ใช้หัวแปรงเพื่อแปรงด้านหลังของฟันหน้า
  • ต้องไม่ลืมแปรงที่ลิ้นด้วย

เราควรให้เด็กเริ่มใช้ไหมขัดฟันเมื่อใด 
เนื่องจากการใช้ไหมขัดฟันจะช่วยกำจัดเศษอาหารและคราบแบคทีเรียตามซอกฟันที่การแปรงฟันเข้าไม่ถึง คุณควรใช้ไหมขัดฟันให้เด็กเริ่มตั้งแต่อายุ 4 ปี ซึ่งเด็กส่วนใหญ่จะสามารถทำได้เองก่อนที่จะอายุ 8 ปี

วัสดุเคลือบร่องฟันคืออะไร และเราจะทราบได้อย่างไรว่าเด็กต้องใช้ 
วัสดุเคลือบร่องฟันจะสร้างด่านป้องกันฟันผุ โดยวัสดุเคลือบร่องฟันเป็นพลาสติกเคลือบบางๆ ที่จะนำไปเคลือบฟันที่ใช้บดเคี้ยวอาหารซึ่งจะเป็นบริเวณที่เกิดฟันผุได้บ่อย การเคลือบร่องฟันเป็นขั้นตอนที่ไม่เจ็บ และทำได้ใน 1 ครั้งที่พบทันตแพทย์ โดยทันตแพทย์จะเป็นผู้ตัดสินว่าลูกของคุณต้องรับการเคลือบร่องฟันหรือไม่

ฟลูออไรด์คืออะไร และเราจะทราบได้อย่างไรว่าเด็กได้รับฟลูออไรด์ในปริมาณที่เหมาะสม
ฟลูออไรด์เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันฟันผุ ฟลูออไรด์เป็นแร่ธาตุที่เกิดตามธรรมชาติ ซึ่งเมื่อผสมกับสารเคลือบฟันจะทำให้ฟันแข็งแรง น้ำประปาในหลาย ๆ เขตมักจะผสมฟลูออไรด์ปริมาณที่เหมาะสมต่อพัฒนาการของฟัน ควรตรวจสอบกับสำนักงานประปาในเขตของคุณเพื่อดูว่าน้ำประปามีการผสมฟลูออไรด์หรือไม่ ถ้าน้ำประปาไม่มีฟลูออไรด์ หรือมีในปริมาณที่ไม่เพียงพอ กุมารอพทย์หรือทันตแพทย์จะเป็นผู้สั่งอาหารเสริมฟลูออไรด์ หรือน้ำยาบ้วนปากให้ นอกเหนือจากยาสีฟันผสมฟลูออไรด์

อาหารมีความสำคัญต่อสุขภาพปากและฟันของเด็กเพียงใด
อาหารที่ถูกสัดส่วนมีความสำคัญต่อการที่ฟันของเด็กจะพัฒนาอย่างแข็งแรงและสามารถต้านทานฟันผุ นอกจากการรับประทานวิตามินและแร่ธาตุทุกชนิดแล้ว อาหารของเด็กควรจะมีแคลเซี่ยม ฟอสฟอรัสในปริมาณมาก และฟลูออไรด์ในระดับที่เหมาะสม

ถ้าฟลูออไรด์คือปราการที่ดีที่สุดในการป้องกันฟันผุของเด็ก การรับประทานอาหารว่างบ่อยครั้งก็เป็นศัตรูที่สำคัญที่สุดเช่นกัน แป้งและน้ำตาลที่พบในอาหารว่างหลายๆ ชนิด เช่น คุกกี้ ลูกอม ผลไม้แห้ง น้ำอัดลม เพรทเซล และมันฝรั่งทอดกรอบ เมื่อมารวมตัวกับคราบแบคทีเรียก็จะทำให้เกิดกรดซึ่งจะทำลายสารเคลือบฟันและนำไปสู่ฟันผุได้ การจู่โจมของคราบแบคทีเรียสามารถอยู่ได้นานถึง 20 นาทีหลังจากมื้ออาหาร แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่คำเล็กๆ ก็สามารถทำให้เกิดกรดแบคทีเรียได้ ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะลดจำนวนครั้งในการรับประทานอาหารระหว่างมื้อ

เราควรทำอย่างไรถ้าฟันของเด็กหัก บิ่น หรือหลุด 
 ถ้ามีการบาดเจ็บใดๆ ภายในช่องปาก ควรพบทันตแพทย์ทันที ทันตแพทย์จะทำการตรวจและเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม

               ถ้าเด็กมีอาการเจ็บหลังจากที่ฟันหักหรือบิ่น ควรพาไปพบทันตแพทย์ทันที คุณอาจจะให้เด็กรับประทานยาแก้ปวดตามเคาน์เตอร์ขายยาก่อนที่จะพบทันตแพทย์ได้ ถ้าเป็นไปได้ ควรเก็บชิ้นส่วนของฟันที่หักไปด้วยเวลาพบทันตแพทย์

               ถ้าฟันหลุดออกจากปาก ให้นำฟันไปพบทันตแพทย์ให้เร็วที่สุด โดยสัมผัสกับฟันให้น้อยที่สุด ห้ามเช็ดหรือทำความสะอาดฟัน ควรเก็บฟันไว้ในน้ำสะอาดหรือนมจนกว่าจะพบทันตแพทย์ เนื่องจากฟันซี่นั้นอาจจะสามารถต่อกับไปยังที่เดิมได้ ด้วยวิธีการปลูกถ่าย

 

 

Other news

เอกซเรย์ฟันสำคัญอย่างไร?

All about Teeth

ยิ้มนี้จะสวยมากกว่าเดิม ด้วยทันตกรรมปิดช่องฟัน

All about Teeth

สุขภาพฟันเด็ก ฟลูออไรด์ต้องเพียงพอ

All about Teeth

ฟันคุดคืออะไร เป็นปัญหากับคุณจริงหรือ?

All about Teeth

เครื่องมือกันฟันล้มวัยเด็ก สำคัญแค่ไหน?

All about Teeth

ทันตกรรมเพื่อความงามด้วยวีเนียร์ (Veneer)

All about Teeth

Contact us for treatment information or directions

Optimized by Optimole