สุขภาพฟันเด็ก ฟลูออไรด์ต้องเพียงพอ

ฟันของเหล่าลูกน้อย จะแข็งแรงได้นั้น “ฟลูออไรด์” ต้องเพียงพอ แล้วจะทราบได้อย่างไร? เรามีคำตอบให้กับคุณค่ะ

ฟลูออไรด์ เป็นสารช่วยป้องกัน และลดการผุของฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพให้ผลต่อฟันคือ มื่อฟันขึ้นแล้ว สารฟลูออไรด์จะช่วยลดการสร้างกรดจากจุลินทร์ทรีย์ และยังสามารถช่วยทำให้การผุชะลอตัว ไม่ผุเพิ่มขึ้นในฟันที่ผุเริ่มแรกได้

      การใช้ฟลูออไรด์มี 2 ลักษณะ คือ การรับประทานและการสัมผัสกับผิวฟัน

  • ชนิดรับประทาน  มักอยู่ในรูปแบบยาเม็ด ยาน้ำ วิตามิน น้ำดื่มและนมผสมฟลูออไรด์
  • ชนิดสัมผัสกับผิวฟัน   อยู่ในรูปแบบยาสีฟัน  น้ำยาบ้วนปาก  และน้ำยาเคลือบฟลูออไรด์เข้มข้นของทันตแพทย์

kid-fluoride-feed-01

ฟลูออไรด์ชนิดรับประทาน
ให้ผลดีต่อฟันที่ยังไม่ขึ้น  และเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 12 ปี ส่วนชนิดสัมผัสกับผิวฟันให้ผลดีต่อฟันที่ขึ้นมาแล้ว เหมาะกับคนทั่วไปจากการศึกษาพบว่า  ปริมาณที่เพียงพอสำหรับเด็ก  ไม่ควรเกิน 5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม  เนื่องจากการคำนวณที่ยุ่งยากข้างต้น คนทั่วไปจึงไม่อาจทราบปริมาณฟลูออไรด์ที่เพียงพอของตนเองได้
ฉะนั้นเคล็ดลับการใช้ฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุนั้น  ต้องใช้เพียงเล็กน้อยแต่สม่ำเสมอ จึงจะเกิดผลดีและไม่เป็นอันตราย  โดยเฉพาะชนิดรับประทานควรปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือศึกษาจากผลิตภัณฑ์การใช้ฟลูออไรด์ก่อนใช้งานอย่างรอบคอบ

ฟลูออไรด์ชนิดเคลือบ (Topical Fluoride Gel)
– 
ฟลูออไรด์ชนิดเคลือบโดยทันตแพทย์ ไม่มีข้อกำหนดที่ชัดเจนว่า ควรเริ่ม และหยุดเคลือบฟลูออไรด์ เมื่ออายุเท่าใด แต่เนื่องจากเด็กอายุน้อยกว่า 3 ปี โอกาสกลืนฟลูออไรด์จากการเคลือบสูง ตั้งแต่ 3 ปี ถึง              15-  16 ปี ยกเว้นในกรณีที่เป็นกลุ่มที่มีระดับ ความเสี่ยงต่อโรคฟันผุสูง ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายๆ ไป
– 
วิธีใช้ฟลูออไรด์ชนิดเคลือบที่มีลักษณะข้นเป็นเจล โดยใส่ฟลูออไรด์ในถาดที่ทำไว้เฉพาะ ให้สัมผัสกับฟันได้ทั่วถึง ประมาณ 4-5 นาที ซึ่งถาดใส่ฟลูออไรด์มีขนาดต่างๆ กัน เพื่อให้มีขนาดที่เหมาะกับปาก และ           ฟันของเด็ก
– 
กรณีที่สุขภาพฟัน และช่องปากให้เด็กบ้วนปากเป่าฟัน ให้แห้ง แล้วเคลือบฟลูออไรด์ได้เลย หรือให้เด็กแปรงฟันเอง โดยทันตแพทย์ช่วยแนะนำวิธีแปรงฟันที่ถูกต้องก่อนเคลือบฟลูออไรด์

การเคลือบฟลูอไรด์ โดยให้ฟลูออไรด์สัมผัสที่ผิวฟัน ใช้เวลานานประมาณ 4 นาที เมื่อเคลือบฟลูออไรด์เสร็จแล้ว จะมีการดูดฟลูออไรด์ที่เหลือออกให้มากที่สุด แล้วให้เด็กบ้วนเองจนหมด ทั้งนี้ ห้ามบ้วนน้ำ ดื่มน้ำ และกินอาหาร 30 นาที เพื่อให้มีการรับฟลูออไรด์ที่ผิวเคลือบฟัน มากที่สุด สำหรับเด็กที่ไม่สามารถเคลือบฟลูออไรด์โดยใช้ถาดได้ อาจใช้วิธีการทาฟลูออไรด์ชนิดเคลือบ แต่ต้องกันน้ำลาย และให้ฟลูออไรด์เปียกฟันตลอด 4 นาที

 

ข้อควรระวังในการใช้ฟลูออไรด์ชนิดเคลือบ
1. 
การเป็นพิษเฉียบพลัน อาการที่พบ ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้อง เป็นต้น แต่มีข้อสังเกตว่า จะต้องกลืนฟลูออไรด์ชนิดเคลือบไปเกือบทั้งหมด การรักษาแบบฉุกเฉิน ได้แก่ ให้ดื่มนมมากๆ เพื่อขลอการ
ดูดซึม

2. 
การเป็นพิษเรื้อรัง ปัจจุบันยังไม่มีรายงานวิจัย ที่แสดงให้เห็นว่า การเคลือบฟลูออไร